โฆษณา Facebook เป็นช่องทางที่ง่ายและเหมาะต่อธุรกิจหน้าใหม่ๆ

นับตั้งแต่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากสื่อออนไลน์ ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ต่างหันมาพึ่งพาโฆษณาออนไลน์กันมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ของสองเจ้ายักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Google ซึ่งถ้ามองเพียงผิวเผินอาจจะเห็นได้ว่าการลงโฆษณาในสื่อใดสื่อหนึ่ง ต่างก็ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน


   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากได้วิเคราะห์และสังเกตดีๆ จะพบว่าทั้งความสามารถในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ความยากง่ายในการวางแผนแต่ละสื่อ รวมไปถึงความเหมาะสมระหว่างสื่อที่ใช้กับประเภทธุรกิจ กลับมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเพื่อไม่ให้การลงทุนเหล่านั้นต้องเสียทั้งโอกาสและสูญเม็ดเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ ผู้ประกอบธุรกิจควรพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเลือกใช้สื่อออนไลน์ให้รอบคอบมากที่สุด


    ถ้าหากพูดถึงสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Facebook ที่ล่าสุดมีตัวเลขผู้ใช้งานทั่วโลกสูงถึง 1 พันล้านแอคเคาท์ จึงไม่แปลกที่ Social Network แห่งนี้ได้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการแจ้งเกิดแบรนด์ ด้วยการใช้งาน Facebook Fan Page ที่พ่วงคุณสมบัติอันโดดเด่นของความง่ายและสะดวกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้การวางแผนโฆษณาสามารถทำได้ด้วยตนเอง ทั้งการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ช่วงเวลาการลงโฆษณา ไปจนกระทั่งการควบคุมงบประมาณต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ยังมีสายป่านไม่แข็งแรงนัก และต้องเป็นสินค้าที่มีราคาพอจับต้องได้

    “รูปแบบการสื่อสารของ Facebook ช่วยให้เราสามารถโต้ตอบพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้บริโภคได้แบบเรียลทาม เช่น ในขณะที่เราลงโฆษณาสินค้า ผู้บริโภคสามารถสื่อสารผ่านทางกล่องคอมเม้นท์ได้ทันที ซึ่งก็ช่วยให้เรารู้ถึง Feedback ของแคมเปญที่ลงไปว่าถูกใจลูกค้ามากน้อยแค่ไหน นอกจากนั้นยังสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของแฟนเพจผ่านฟังก์ชัน Insight Page ซึ่งจะช่วยให้เรามีความเข้าใจใน “แฟน” หรือผู้ที่กดไลค์เรามากขึ้น นับว่าเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนที่ถูกต้อง

    ซึ่งแน่นอนว่าโฆษณา Facebook เป็นช่องทางที่ง่ายและเหมาะต่อธุรกิจหน้าใหม่ๆ แต่ในบางธุรกิจอย่างเช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูงอาจจะใช้ Facebook เป็นได้แค่กระบอกเสียงที่ทำให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น แต่ไม่อาจตอบโจทย์ในแง่ของการกระตุ้นยอดขายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก เพราะโดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้าน ที่ดิน รถหรือคอนโด มักจะเป็นฝ่ายเข้าหาข้อมูลผ่านทาง Search Engine ระดับโลกอย่าง Google เสียมากกว่า ดังนั้น Google จึงเริ่มมีการกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเองขึ้นมา พร้อมทั้งเชิญชวนให้ใช้แอพพลิเคชันอย่าง Google Adwords หรือการทำโฆษณาออนไลน์โดยใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมใช้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ข้อดีของการรถเช่าเชียงใหม่เพื่อขับเที่ยวเอง

การกะเวลาเดินทาง Bangkok Airport